วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

โรคจอประสาทตาเสื่อม คืออะไร


โรคจอประสาทตาเสื่อม เป็นโรคที่มีความผิดปรกติเกิดขึ้นที่จุดกลางรับภาพของจอประสาทตา (Macula) ซึ่งเป็นส่วนที่ไวต่อการมองเห็นมากที่สุด โดยผู้ป่วยมักจะไม่สังเกตเห็นถึงความผิดปรกติในระยะเริ่ม ต้น มารู้ตัวเมื่อมีการสูญเสียการมองเห็นเกิดขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม โรคจอประสาทตาเสื่อมจะทำให้สูณเสียการมองเห็นเฉพาะตรงกลางภาพ โดยที่ผู้ป่วยยังสามารถมองเห็นบริเวณขอบด้านข้างของภาพได้อยู่ โรคนี้มีอุบัติการสูงขึ้นมากในกลุ่มอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
       เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งของภาวะตาบอดแบบถาวรในผู้สูงอายุ บุคคลที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม คือ ผู้สูงอายุ ดังนั้นผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปจึงควรได้รับการตรวจจอประสาทตาทุก 1-2 ปี นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน คลอเลสเตอรอล สูง และประวัติบุคคลในครอบครัวเคยเป็นโรคนี้ ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้มีโอกาสเกิดโรคนี้ได้มากกว่าคนทั่วไป
        ชนิดของจอประสาทตาเสื่อม
โรคจอประสาทตาเสื่อมมีลักษณะของโรค 2 รูปแบบ คือ
    1.แบบแห้ง หรือแบบเสื่อมช้า (Dry หรือ Atrophic AMD) เป็นรูปแบบที่พบได้มากที่สุด โดยเซล จอประสาทตาจะค่อยๆเสื่อมเสียไปอย่างช้าๆ ความสามารถในการมองเห็นจะค่อยๆลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ จนผู้ป่วยแทบไม่ทันได้สังเกตุ

    2.แบบเปียก หรือแบบเร็ว (Wet หรือ Neovascular AMD) พบประมาณร้อยละ 10-15 ของโรคจอประสาทตาเสื่อมทั้งหมด จะเกิดการสูญเสียการมองเห็นอย่างรวดเร็วทันที เป็นผลจากจุดกลางรับภาพจอประสาทตาบวมและ/หรือมีเลือดออกจากเส้นเลือดผิดปรกติใต้จอประสาทต(Choroidal neovascular membrane)
   ปัจจุบัน ป้องกันปัญหา โรคจอประสาทตาเสื่อม ด้วยผลิตภัณฑ์ บลูเบอร์รี่ อายแคร์ซอฟท์เจล
      เลขทะเบียน อย. เลขที่ 10-3-23254-1-0010
              วิธีรับประทานบเบอร์รี่ อายแคร์ซอฟท์เจล
   สำหรับผู้ป่วยโรคตา ให้รับประทานวันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหารเช้า
      ดูข้อมูลที่    
http://blueberryeyecaresoftgel.blogspot.com
    ขนาดและราคา   1 ขวด 100 แคปซูล ราคา 2,500 บาท
                          บริการส่งฟรีทั่วประเทศไม่คิดค่าส่ง
    สั่งซื้อที่     คุณ วีระชัย   ทองสา
                    โทร. 084-6822645 , 085-0250423
                    อีเมล์  weerachai.coffee@hotmail.com 




  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น